Posted by เป็นที่รู้กันดีว่ากีฬายอดนิยมอย่างกีฬา “เซปักตะกร้อ” นั้น เป็นการผสมผสานเอาการละเล่นของประเทศไทยเรากับทางประเทศมาเลเซียเข้าด้วยกัน คือการละเล่นของทางฝั่งมาเลย์ที่เรียกว่า “เซปัก” กับการละเล่น “ตะกร้อ” ที่เป็นกีฬาที่นิยมเล่นกันมาในประเทศเรานับตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ดังนั้นก่อนที่จะนำตะกร้อมาเล่นในรูปแบบเซปักนั้นตะกร้อที่เป็นรูปแบบของไทยแท้ ๆ ที่เป็นที่นิยมมาตั้งแต่โบราณก็คือ “ตะกร้อลอดห่วง” นั่นเอง
การเล่นตะกร้อลอดห่วงนั้นถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นกีฬาที่สนุกตื่นเต้นกับการทำแต้มเชือดเฉือนกันแบบเซปักตะกร้อ แต่เสน่ห์ของตะกร้อแบบไทย ๆ ชนิดนี้จะไปอยู่ตรงความสวยงามของท่วงท่าต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำคะแนน ซึ่งแต่ละท่าล้วนแล้วแต่ต้องใช้ทักษะและความแม่นยำอย่างสูงของนักกีฬา เพราะการที่จะใช้ท่าทางที่พิสดารและสวยงามแบบนั้นเพื่อส่งลูกตะกร้อขึ้นไปสู่ห่วงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางแค่ 45 เซนติเมตร ที่แขวนอยู่เหนือพื้นดินสูงถึง 5.5 เมตรนั้นย่อมจะไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน มันจึงทำให้จุดนี้กลายเป็นตัวดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับกฎกติกาคร่าว ๆ ของการเล่นตะกร้อลอดห่วงก็คือ แต่ละทีมจะประกอบด้วยผู้เล่นจำนวน 5 คน และมีตัวสำรองข้างสนามอีก 1 คน ยืนล้อมเป็นวงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 เมตร แล้วใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่กำหนดไว้ตามกติกา (ใช้ได้แทบทุกส่วนยกเว้นมือ) เพื่อส่งให้ลูกตะกร้อเข้าไปในห่วงตรงกลางที่สูงจากพื้นที่ 5.5 เมตร และนับคะแนนตามจำนวนครั้งที่ส่งลูกลงห่วงซึ่งเริ่มต้นที่ครั้งละ 10 คะแนนโดยเป็นการทำแต้มโดยท่าพื้นฐานก็คือการใช้ข้างเท้าด้านในหรือลูกแปนั่นเอง ส่วนท่าอื่น ๆ ที่เป็นท่าพิเศษอย่างเช่นท่าไขว้ขา ไขว้เข่า ไขว้ลอดมือ และอีกมากมายหลายท่าก็จะมีคะแนนพิเศษเพิ่มขึ้นไปตามระดับความยาก โดยท่าที่ยากที่สุดอยู่ที่ 50-60 คะแนนเลยทีเดียว
ปัจจุบันตะกร้อลอดห่วงนั้นก็ได้รับความนิยมออกไปนอกประเทศเราแล้วพอสมควร โดยในรายการระดับนานาชาตินั้นก็มีการจัดการแข่งขันในกีฬาซีเกมส์ครั้งแรกในปี 2550 ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเรียกว่าตะกร้อลอดห่วงสากล ซึ่งเข้ามาแทนที่ของตะกร้อวงที่เคยจัดกันมาก่อนหน้านี้ และหลังจากนั้นก็ได้รับการบรรจุให้มีการแข่งขันกีฬาประเภทนี้ในระดับภูมิภาคอาเซียนของเราเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน แถมยังเป็นกีฬาที่เหล่านักพนันชื่นชอบมาก เพราะดูก็สนุก เดิมพันก็ไม่ซับซ้อน
ถึงแม้ว่าตะกร้อลอดห่วงจะเป็นกีฬาที่มีจุดกำเนิดในบ้านเรา แต่หลังจากที่มีหลายประเทศเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาชนิดนี้ก็พบว่าเป็นกีฬาที่หลาย ๆ ประเทศทำได้ดีทีเดียว โดยจะเห็นได้จากการที่มีประเทศอื่น ๆ สู้กับนักกีฬาไทยเราได้อย่างสูสีมากกว่าเซปักตะกร้อที่ดูเหมือนว่าจะมีเพียงมาเลเซียเท่านั้นที่ดูจะเป็นคู่แข่งกับเรา และจุดนี้แหละที่มันจะทำให้กีฬาชนิดนี้ยังสามารถขยายความนิยมเข้าสู่แฟนกีฬาประเทศอื่นได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมันก็เป็นการขยายกีฬาไทยให้ชาวโลกได้รู้จักเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง