“แฮร์รี่ แม็กไกวร์” ปราการหลังค่าตัวสถิติโลกผู้ยกระดับแนวรับปีศาจแดง

“ผมมีความเชื่อมั่นและมั่นใจว่า ในช่วงเวลา 5-6 ปีนี้ ผมจะต้องประสบความสำเร็จ และมีช่วงเวลาที่ดีมากมายกับสโมสรแห่งนี้” นี่คือถ้อยคำให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนล่าสุดของแฮร์รี่ แม็กไกวร์ ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นต่ออนาคตที่ดีของเขากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ในสถานการณ์ปัจจุบันสภาพทีมโดยรวมของทีมปีศาจแดงกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติก็ตาม

แม็กไกวร์ ย้ายข้ามฝากจากเลสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมชายคาโรงละครแห่งความฝันด้วยค่าตัวสูงถึง 80 ล้านปอนด์ จนกลายเป็นเซ็นเตอร์แบ็กที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกคนปัจจุบัน แม้จะลงประเดิมสนามให้ต้นสังกัดใหม่ด้วยฟอร์มสวยหรูช่วยให้ปีศาจแดงเปิดบ้านเอาชนะเชลซีไปได้ด้วยสกอร์ 4-0 แถมนัดนี้แม็กไกวร์ยังคว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ไปครองได้สำเร็จ จากผลงานการเก็บกวาดแนวรุกของผู้มาเยือนจนอยู่หมัด แต่แล้วอีก 7 นัดต่อมา ปีศาจแดงกลับเสียประตูให้คู่แข่งไปถึง 6 นัด จนเกิดการตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ทุ่มทุนมหาศาลลงไป

แม้จะถูกคู่แข่งทำประตูแทบทุกนัด แต่เมื่อพิจารณาถึงการเสียประตูแล้ว ล้วนเกิดจากความผิดพลาดส่วนตัวของเพื่อนร่วมทีมทั้งสิ้น โดยเฉพาะวิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่ถูกวางให้เป็นคู่หูในแนวรับของเขา ซึ่งมักจะพลาดในลูกกลางอากาศอยู่บ่อยครั้ง แถมแม็กไกวร์เองยังต้องช่วยเติมเกมบุกช่วงท้ายเกมในยามที่แนวรุกเจาะคู่แข่งไม่ได้อีกด้วย นอกจากนั้นสถิติการป้องกันของแม็กไกวร์ยังถือเป็นลำดับต้นๆ ของลีก สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของปราการหลังทีมชาติอังกฤษได้เป็นอย่างดี จนอดคิดไม่ได้ว่าหากไม่มีแม็กไกวร์ แนวรับของปีศาจแดงจะสะบักสะบอมมากกว่านี้ขนาดไหน

ตำแหน่งปราการหลังตัวกลางถือเป็นปัญหาใหญ่ของทีมปีศาจแดงมาตั้งแต่หมดยุคของริโอ เฟอร์ดินาน และเนมานย่า วิดิช คู่หูพันธุ์แกร่งที่จับคู่ช่วยกันดูแลหลังบ้านมาเกือบ 10 ปี ยิ่งเมื่อตัวตายตัวแทนอย่างคริส สมอลลิ่ง และฟิล โจนส์ ไม่สามารถสานต่อผลงานอันยอดเยี่ยมได้ แถมเด็กปั้นของสโมสรก็ยังไม่แกร่งพอ ทำให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมายูไนเต็ดจำต้องนำเข้านักเตะในตำแหน่งนี้อยู่ทุกปี ไม่ว่าจะเป็น ดาลี่ย์ บลินด์, มาร์กอส โรโฮ, เอริค ไบญี่ จนมาถึงวิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในแนวรับได้อย่างถาวร จนทีมต้องมาลงทุนระดับสถิติโลกกับแม็กไกวร์ในที่สุด

ก่อนการมาของแม็กไกวร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเสียประตูให้คู่แข่งร่วมลีกในฤดูกาล 2018-2019 ไปถึง 54 ประตู มีเพียง 7 นัดเท่านั้นที่ปีศาจแดงรอดพ้นจากการถูกสังหารประตู ส่วนหนึ่งมาจากการที่เซ็นเตอร์แบ็กแต่ละคนผลัดกันถูกลักพาตัวจากสนามทั้งจากอาการบาดเจ็บและฟอร์มการเล่น จนทีมต้องเปลี่ยนคู่หูในแนวรับแทบทุกเกม ทำให้ขาดซึ่งความเข้าขาและรู้ใจกันในการเล่นเกมรับตลอดทั้งฤดูกาล ด้วยความฟิตของแม็กไกวร์น่าจะช่วยปีศาจแดงมีปราการหลังตัวหลักประจำทีมเสียที

แม้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเก็บแต้มได้เพียง 9 คะแนนจากการลงเล่น 8 นัด จนหล่นไปอยู่อันดับ 12 บนตารางคะแนน แต่ดูเหมือนว่าปัญหาในแนวรับได้ถูกแก้ไขไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อพวกเขาเสียประตูให้คู่แข่งไปเพียง 8 ประตูเท่านั้นจากการลงแข่งขันทุกรายการ เห็นแบบนี้เหล่านักพนันก็คงจะอุ่นใจได้มากขึ้นหากจะเลือกวางเดิมพันในข้างของปีศาจแดง หลังจากที่ต้องอกหักเสียเงินเสียทองกันมาหลายนัดแล้ว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่นแนวรุกของปีศาจแดงแล้วว่าจะพัฒนาเกมบุกและพาทีมกลับสู่เส้นทางแห่งชัยชนะได้เมื่อไหร่ เพราะแม้แนวรับจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่หากยิงประตูคู่แข่งไม่ได้ อย่างมากทีมก็เก็บได้เพียงแต้มเดียวเท่านั้น ซึ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่น่าภูมิใจสำหรับทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นแม็กไกวร์คงไม่ปลื้มแน่หากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องจบอันดับต่ำกว่าเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมเก่าที่เขาจากมา