เทเบิลเทนนิส กีฬายอดฮิตที่ต้องใช้ไหวพริบในการเล่น

กีฬาเทเบิลเทนนิส หรือที่รู้จักกันในชื่อปิงปอง ถือเป็นกีฬาที่แพร่หลายไปทั่วโลก เพราะเป็นกีฬาที่เล่นง่าย และใช้พื้นที่น้อยในการเล่น โดยมีผู้เล่นเพียง 2 หรือ 4 คน ยืนกันคนละด้านของโต๊ะปิงปอง โดยการตีลูกโต้ไปให้ข้ามตาข่ายเน็ตกั้นกลางของโต๊ะปิงปองไปมา และยังเป็นกีฬาสันทนาการอีกชนิดหนึ่งที่สามารถเล่นด้วยกันได้อย่างสนุกสนานในหมู่คณะ และยังเป็นกีฬาที่มีความท้าทายที่ผู้เล่นจะต้องใช้ไหวพริบ และความคล่องตัวของร่างกายในการรับ ส่ง ลูก ซึ่งความท้าทายนี้ ปิงปองจึงได้รับความนิยมในระดับสากล แล้วกีฬานี้เริ่มมาจากไหนกัน เราจะมีข้อมูลมากฝากกัน

กีฬาปิงปอง ได้เริ่ม ขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1890 (พ.ศ. 2433) ที่ประเทศอังกฤษ โดยสมัยนั้นอุปกรณ์ที่ใช้เล่นปิงปองเป็นไม้หุ้มหนังสัตว์ ซึ่งก็จะคล้ายๆกับไม้ปิงปองในปัจจุบันส่วนลูกที่ใช้จะเป็นลูกที่ทำจากพลาสติกกึ่งสังเคราะห์ โดยเวลาที่ลูกบอลกระทบกับพื้นโต๊ะ และไม้ตีจะเกิดเสียง “ปิก-ป๊อก”  ดังนั้น กีฬานี้จึงถูกเรียกชื่อตามเสียงที่ได้ยินว่า ปิงปอง”และได้เริ่มแพร่หลายในกลุ่มประเทศยุโรปก่อน

ส่วนวิธีการจับไม้ จะมี 2 ลักษณะ คือ จับไม้แบบจับมือ  ซึ่งเราเรียกกันว่า “จับแบบยุโรป หรือก็คือท่าจับแบบปกติที่เห็นส่วนใหญ่จับลักษณะนี้กัน และการจับไม้แบบจับปากกา ซึ่งเราเรียกกันว่า จับไม้แบบจีน

ในปี ค.ศ. 1900 เริ่มมีการหันมาใช้ไม้ปิงปองติดยางเม็ดแทนหนังสัตว์ ดังนั้นวิธีการเล่นแบบรุก โดยใช้ท่า หน้ามือ และ หลัง เริ่มมีบทบาทมากขึ้น และยังคงนิยมการจับแบบไม้แบบยุโรป ดังนั้นจึงถือว่ายุโรปเป็นศูนย์รวมของกีฬาปิงปองอย่างแท้จริง

ต่อมาในปี ค.ศ. 1922 ได้มีบริษัทค้าเครื่องกีฬา จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าว่า PINGPONG ด้วยเหตุนี้ กีฬาปิงปองจึงต้องเปลี่ยนชื่อเป็น เทเบิลเทนนิส และในปี ค.ศ. 1926 ได้มีการประชุมก่อตั้งสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ ขึ้นที่กรุงลอนดอนในเดือนธันวาคม  พร้อมกับมีการจัดการแข่งขันเทเบิลเทนนิสแห่งโลกครั้งที่ 1  ขึ้น เป็นครั้งแรก

หลังจากนั้นก็มีการแข่งขันเกิดขึ้นมากมายมีการปรับวิธีการตบลูก จังหวะการเต้นของปลายเท้า และเทคนิคต่างๆ เพื่อเอาชนะในการแข่งขันให้ได้ และหลังจากแข่งขันคว้าแชมป์ระดับโลก ประเทศที่ชนะเลิศก็ถูกเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ถึงทางฝั่งยุโรปจะเป็นผู้ริเริ่ม ก็ยังถูกญี่ปุ่นเอาชนะด้วยวิธีการเล่นแบบญี่ปุ่นและเอาชนะมาได้ติดต่อกันหลายปี และจีนก็ได้มาเอาชนะญี่ปุ่นได้จากการศึกษาวิธีการเล่นของอีกฝ่าย และยังคงพัฒนาเทคนิคการเปลี่ยนหน้าไม้ในขณะเล่นลูก  และมีการปรับปรุงหน้าไม้ซึ่งติดด้วยยางปิงปอง  ที่มีความยาวเม็ดยางมากกว่าปกติ โดยการใช้ยางที่สามารถเปลี่ยนวิถีการหมุน และทิศทางของลูกได้ จึงนับได้ว่ากีฬาเทเบิลเทนนิสเป็นกีฬาที่แพร่หลายไปทั่วโลก และมีการพัฒนาอุปกรณ์ และมีวิธีการเล่นใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา