เซปักตะกร้อมันคือกีฬาประจำชาติไทยจริงหรือใครเป็นคนตัดสินว่าเป็นของไทย

ทุกคนคงรู้จักกีฬาเซปักตะกร้อเป็นอย่างดี หรือถ้าคนที่มีอายุหน่อยอาจจะรู้จักในนามกีฬาลูกหวาย ซึ่งแต่ก่อนก่อนจะมาเป็นลูกตะกร้อที่ทำด้วยพลาสติก กีฬาชนิดนี้ได้เริ่มจากการใช้ลูกตะกร้อมาก่อน จนกระทั่งมาเลเซียได้เปลี่ยนลูกตะกร้อจากหวายมาเป็นพลาสติกในการแข่งขันซีเกมส์และได้ใช้ลูกพลาสติกมาจนถึงทุกวันนี้ กีฬาตะกร้อแบ่งเป็นตะกร้อที่ใช้คนเตะฝั่งละสามคน กับการเตะตะกร้อรอดห่วงที่ใช้ถ้าเตะให้ลงห่วงเป็นการวัดคะแนน ยิ่งท่ายากก็ยิ่งได้คะแนนเยอะ แต่ทุกวันนี้ตะกร้อแบ่งการแข่งขันหลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตะกร้อแบบสองคน สามคน หรือสี่คน ซึ่งมีการแข่งขันในระดับสากล

แล้วประเทศไทยคือผู้ให้กำเนิดตะกร้อจริงหรือแล้วมีความเป็นมาอย่างไร

หลังจากที่เราได้มีการเล่นตะกร้อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ จนกระทั่งมาจนถึงช่วงที่เริ่มมีการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศซึ่งเริ่มจากภูมิภาคเอเชียก่อน ได้มีการบรรจุกีฬาประเภทนี้ทำให้เรารู้ว่าไม่ได้มีชาติเราชาติเดียวที่เล่นตะกร้อมาเป็นเวลานาน แน่นอนถ้าคุณเป็นแฟนตะกร้อหรือชอบดูตะกร้อ ประเทศที่เป็นคู่รักคู่แค้นกับประเทศไทยในกีฬาตะกร้อมานานคือประเทศมาเลเซียหรือที่รู้จักกันในการแข่งขันกีฬาว่าประเทศเสือเหลือง โดยมาเลเซียเค้าก็อ้างว่ากีฬาเซปักตะกร้อเป็นกีฬาประจำชาติของมาเลเซียมาก่อน แต่เราก็บอกว่ากีฬาเซปักตะกร้อเราก็เล่นมาตั้งแต่อดีตตระการเหมือนกัน การแข่งขันชิงความเป็นหนึ่งหรือชิงความเป็นเจ้าเหรียญทองของกีฬาเซปักตะกร้อก็เริ่มขึ้น เราผลักกันแพ้กันชนะกับมาเลเซียจนกระทั่งสิบปีหลังมาเราเป็นฝ่ายชนะมาตลอด และก็เริ่มมีประเทศที่สนใจกีฬาประเภทนี้ แล้วก็หัดเล่นกันเยอะและแพร่หลายเป็นวงกว้างขึ้นในแทบภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นประเทศมหาอำนาจแถบเอเชียเช่น จีน ญี่ปุ่น หรือประเทศที่มาแรงในแถบอาเซียนคือ เวียดนาม ทำให้ทางการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ได้ทำการบรรจุกีฬาเซปักตะกร้อเข้าไว้ในการแข่งขันโดยประเทศไทยได้กวาดเหรียญรางวัลทุกประเภทของเซปักตะกร้อมาครองจนหมด ทุกวันนี้มาเลเซียเลยไม่มีสิทธิอ้างว่าเซปักตะกร้อเป็นของประเทศเค้าอีกเลย และด้วยความเก่งของประเทศไทยทำให้เกิดการจ้างงานและรายได้กับนักกีฬาที่เลิกเล่นไปแล้วได้มีการจ้างไปเป็นผู้ฝึกสอนในต่างประเทศเพื่อที่ประเทศนั้น ๆ จะได้เรียนรู้กีฬาเซปักตะกร้อและเข้าแข่งขันในกีฬาเอเชียนเกมส์หรือซีเกมส์เพื่อเพิ่มเหรียญรางวัลในการแข่งขันและเป็นเจ้าเหรียญทอง

แต่ยังไงก็ตามจากผลงานการแข่งขันในระดับชาติที่ผ่านมาเราก็พิสูจน์แล้วว่านักกีฬาเซปักตะกร้อไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก เราก็สามารถพูดได้ว่ามันคือกีฬาประจำชาติของคนไทยอย่างแท้จริง แต่อย่างไรก็ตามเราก็ควรจะฝึกซ้อม อนุรักษ์ และเผยแพร่กีฬาเซปักตะกร้อไม่ให้เลือนหายและให้ไปในระดับโอลิมปิกให้ได้ในอนาคตและเพื่อเป็นการสร้างรายได้แก่นักกีฬาที่เลิกเล่นตะกร้อไปแล้วให้มีงานต่อไปในการเป็นผู้ฝึกสอนในทุกชาติทั่วโลก