ฮับกีโด (Hapkido) ศิลปะการต่อสู้ที่แสดงถึงวัฒนธรรมของชนชาติเกาหลี

หากใครเคยดูภาพยนตร์สัญชาติเกาหลีบางเรื่อง อาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับเทคนิคการป้องกันตัวของชาวเกาหลีที่ชื่อว่า “ฮับกีโด” ซึ่งเป็นศิลปะการป้องกันตัวชนิดหนึ่งของประเทศเกาหลีที่มีมายาวนาน

ฮับกีโด เป็นศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน ที่เน้นการป้องกันตัวเองที่ใช้การล็อคข้อต่อ ใช้เทคนิคการเตะต่อยและการโจมตีที่โดดเด่น รวมถึงสอนเทคนิคการใช้อาวุธแบบดั้งเดิม อย่างเช่น มีดดาบเชือก (Ssang Juhl Jong), ไม้เท้า (Ji Pang ee), ไม้ขนาดสั้น (Dan Bong) และไม้เท้ายาว (Joong Bong) , ปืน และ ไม้พลองของญี่ปุ่นที่เรียกว่า bo

ที่มาของฮับกีโดและเทคนิคที่เกิดจากการผสมผสานวัฒนธรรม

ศิลปะการต่อสู้ฮับกีโด มีต้นกำเนิดทางเทคนิคร่วมกันกับศิลปะการป้องกันตัวของประเทศญี่ปุ่นที่ชื่อว่า “ไอคิโด” และต้นกำเนิดนั้นคือ Daito-ryu Aiki-jujutsu ผู้ที่นำฮับกีโดมาเผยแพร่ในเกาหลีมีชื่อว่า ชเวยองซุน เขาคนนี้อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นนานกว่า 30 ปี เมื่อเขากลับเข้ามาที่เกาหลีหลังสงครามโลกครั้งที่สอง นายชเวได้ผสมผสานเทคนิคการเตะที่มีความโดดเด่นจากศิลปะพื้นเมืองและร่วมสมัยเข้าไว้ด้วยกัน เช่น Taekkyeon และ Tang Soo Do ซึ่งเป็นศิลปะการป้องกันตัวของเกาหลี และเทคนิคการขว้างปาและการต่อสู้ภาคพื้นดินจากกีฬายูโดของประเทศญี่ปุ่น

ความน่ากลัวของ ฮับกีโด คือการใช้เทคนิคการต่อสู้ทั้งระยะไกลและระยะใกล้ โดยอาศัยการเตะ การกระโดดและการตีด้วยมือแบบเป็นจังหวะในระยะยาว การกดจุดความดัน รวมถึงการล็อกข้อต่อและการยิงปืนระยะประชิด ฮับกีโดเน้นการเคลื่อนที่เป็นวงกลม การเปลี่ยนทิศทางและการควบคุมฝ่ายตรงข้าม ผู้เล่นต้องพยายามมองหาความได้เปรียบที่อยู่เหนือคู่ต่อสู้ ผ่านการวางเท้าและการวางตำแหน่งของร่างกายเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่

เทคนิคการป้องกันตัวในแบบฉบับของฮับกีโด

แนวทางของฮับกีโดนั้น มันเน้นการป้องกันตัวเองมากกว่าการต่อสู้ในแบบกีฬา และมีการใช้อาวุธในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ นอกเหนือจากกรใช้มือเปล่า ซึ่งมีเทคนิคต่าง ๆ ดังนี้

                การเตะ เน้นความหลากหลายของการเตะ ใช้การเคลื่อนที่เป็นวงกลม เป้าหมายโจมตีของการเตะคือจุดต่าง ๆ ที่ต่ำกว่าใต้เอว ลักษณะของเทคนิคฮับกีโดที่โดดเด่นที่สุดก็คือการกวาดส้นเท้าต่ำ

                การโจมตีด้วยมือ ฮับกีโดใช้การชกและการโจมตีด้วยมืออยู่บ่อยครั้ง การใช้มือออกพลังเพื่อโจมตีให้คู่ต่อสู้อ่อนแอก่อนที่จะทำการล็อกและขว้าง การใช้มือของฮับกีโดนั้น ไม่ได้จำกัดเฉพาะการชก แต่ยังมีการจู่โจมทั้งที่เล็บ คอ ตา หรือแม้กระทั่งอวัยวะเพศของคู่ต่อสู้ก็ยังมีการถ่ายทอดให้ได้เรียนรู้อีด้วย

                การจัดการกับข้อต่อ เทคนิคการควบคุมร่างกายของคู่ต่อสู้คือการจัดการโจมตีข้อต่อ อย่างเช่นการจัดการกับข้อต่อให้เคลื่อนที่ไปทิศทางตรงกันข้ามกับการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ ซึ่งจะสร้างความเจ็บปวดให้คู่ต่อสู้ จนถึงกับต้องยอมพ่ายแพ้ไป

                Wristlocks เป็นเทคนิคที่คล้ายกับไอคิโด ด้วยการโจมตีแบบระยะใกล้และจับบิดข้อมือบิดตามเข็มนาฬิกา

                Elbowlocks คือการกดข้อศอกด้วยมือ ซึ่งเป็นวิธีป้องกันตัวเองและเป็นวิธีการปลดอาวุธ ทั้งยังเป็นการทำลายข้อข้อศอกของคู่ต่อสู้ที่ถืออาวุธ การต่อสู้วิธีนี้คล้ายคลึงกับยูโดของญี่ปุ่น ที่เน้นใช้แรงกดบนข้อศอก แต่จะแตกต่างกันที่ฮับกีโดจะตัดเข้าที่ข้อศอกมากกว่า

เมื่อมีคนรู้จักฮับกีโดกันมากขึ้น จึงมีการจัดการแข่งขันฮับกีโดในหลายรายการ แต่ด้วยเป็นศิลปะการต่อสู้ที่เน้นการโจมตีอย่างรุนแรง จึงต้องลดกติกาบางอย่างให้เหมาะสมและไม่รุนแรงกับผู้เข้าแข่งขันมากเกินไป ในปัจจุบันฮับกีโดได้รับความนิยมในหลายประเทศ นับเป็นความสำเร็จในการเผยแพร่วัฒนธรรมของชนชาติเกาหลีผ่านกีฬาได้อย่างแนบเนียน

เครดิตภาพ : https://www.pinterest.com/pin/79798224636075613/