Posted by นกกรงหัวจุกหรือนกปรอทหัวจุก เป็นนกขนาดเล็ก มีสีสันที่สวยงามและมีเสียงร้องที่ไพเราะเป็นจังหวะฟังเสนาะหู สามารถพบเจอได้ทั่วไปในประเทศไทย คนนิยมนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงที่บ้านเพื่อฟังเสียงร้องอันไพเราะของมัน และยังมีอีกหลายคนที่นำมาฝึกฝนให้มันเป็นนักกีฬาที่มีเสียงร้องอันไพเราะและนำไปลงแข่งขัน ในภาคใต้ของประเทศไทยโดยเฉพาะจังหวัดชายแดนเช่น ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา ผู้คนมากมายนำนกกรงหัวจุกมาเลี้ยงเป็นจำนวนมากเสมือนวัฒนธรรมการดำรงชีวิตของผู้คนในพื้นที่นั้น ๆ บ้างก็เลี้ยงเพื่อลงแข่งขันเป็นกีฬา โดยตัดสินจากเสียงร้องของพวกมันและยังถือว่าเป็นกีฬาพื้นบ้านของทางภาคใต้ที่คนให้ความสนใจมากเลยทีเดียว
หลาย ๆ คนคงเคยเห็นการจัดแข่งขันนกกรงหัวจุกผ่าน ๆ ตามาแล้วบ้าง หรืออาจเคยเห็นในโทรทัศน์ ในการจัดการแข่งขันแต่ละครั้งนั้นมีผู้คนนำนกลงแข่งขันมากมาย เป็นหลักร้อย หลักพันตัวเลยก็ว่าได้ และมีผู้คนที่ให้ความสนใจ เซียนนก หรือชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงสนามแข่งขันมาดูการแข่งขันไม่น้อย วันนี้ VWIN จะมาแนะนำให้รู้จักเจ้ากีฬาพื้นบ้านนี้ให้มากขึ้น
การแข่งขันนกกรงหัวจุกนั้นแบ่งหลัก ๆ เป็น 3 ประเภทเช่น การแข่งขันประเภทนับดอก การแข่งขันประเภทสากล และการแข่งขันประเภทเสียงทอง เป็นต้น การแข่งขันประเภทนับดอก คือ การที่นกจะต้องร้องให้ได้ 3 พยางค์เป็นอย่างน้อย (นกอาจจะร้องมากกว่า 3 พยางค์ก็ได้) ถึงจะนับเป็น 1 คะแนน และถ้านกตัวไหนร้องได้หลายพยางค์ ร้องได้นานกว่านกตัวอื่นก็จะเป็นฝ่ายชนะไป การแข่งขันประเภทสากล คือ การที่นกสามารถร้องต่อสู้หรือโต้ตอบกับนกตัวอื่นได้มากน้อยแค่ไหน และต้องร้องได้มากกว่า 3 พยางค์ขึ้นไป และการแข่งขันประเภทนกเสียงทอง คือ การแข่งขันจากเสียงร้อง ความไพเราะของเสียง สำนวนในการร้อง โดยแบ่งเกณฑ์การตัดสินเป็น เนื้อเสียง 30 คะแนน สำนวนการร้องอีก 20 คะแนน หรือแล้วแต่ที่ผู้จัดการแข่งขันกำหนดขึ้น การตัดสินการแข่งขันค่อนข้างที่จะซับซ้อนและต้องอาศัยประสบการณ์พอสมควรเพราะต้องฟังเสียงนกร้องเป็นพยางค์ เป็นจังหวะ เป็นต้น ถ้านกตัวไหนที่ลงแข่งขันแล้วสามารถคว้าชัยชนะ คว้ารางวัลชนะเลิศได้ก็จะได้รับรางวัลเงินสดหรือทรัพย์สินอะไรก็แล้วแต่ที่ผู้จัดกำหนดไว้ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือราคาของนกตัวนั้นจะพุ่งสูงขึ้นเป็นหลักหมื่น หลักแสน หรือบางตัวพุ่งไปถึงหลักล้านก็เป็นไปได้
ปัจจุบันนี้การแข่งขันนกกรงหัวจุกถือเป็นกีฬาพื้นบ้านที่มีการจัดแข่งขันกันแพร่หลายในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย และสามารถสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้ชาวบ้านได้ไม่น้อย เพราะเสียงร้องอันไพเราะ ลักษณะและสีสันที่สวยงาม และน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของนกแต่ละตัว ทำให้กลายเป็นเสน่ห์ของกีฬาชนิดนี้และเสียงร้องของมันจะยังคงดังกึกก้องอยู่ทั่วภาคใต้ของประเทศไทยไปอีกนาน