จากสูงสุดสู่สามัญ ชีวิตในวันนี้ของ “เกรียนโอ้” มาริโอ บาโลเตลลี่

คำว่าพรสวรรค์นั้นเป็นคำที่ไม่ว่านักกีฬาคนใดก็ล้วนแล้วแต่ปรารถนาที่จะมีมันทั้งนั้น เพราะถึงแม้สุดท้ายแล้วมันจะไม่ใช่เครื่องการันตีว่าคุณจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางอาชีพ แต่มันก็จะทำให้คุณเริ่มก้าวแรกบนเส้นทางได้ไกลกว่าคนอื่นที่ไม่มีมันอย่างแน่นอน และหากย้อนกลับซักสิบสองปีที่แล้วเด็กคนหนึ่งที่ได้รับการชื่นชมว่าเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์สูงมากคนหนึ่งก็คือ มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าดาวรุ่งชาวอิตาลีแห่งค่ายงูใหญ่ในตอนนั้น แต่สิ่งที่มันมาพร้อมกับการเป็นเด็กที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ของเขามันก็คือการเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโตนั่นเอง

เชื่อว่าแฟนฟุตบอลทุกคนที่ติดตามกีฬาชนิดนี้มาได้ซักระยะคงจะรู้จักชื่อของมาริโอ บาโลเตลลี่เป็นอย่างดี และถ้าหากเป็นแฟนบอลที่ติดตามมานานหน่อยค่อยคงจะได้เคยสัมผัสช่วงเวลาที่กองหน้ารายนี้ได้รับการคาดหมายว่าจะก้าวไปเป็นกองหน้าระดับโลกได้ในระดับเดียวกับโรนัลโด้หรือเมสซี่ และได้เห็นว่าในช่วงนั้นเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าบาโลเตลลี่นั้นมีฝีเท้าที่จัดจ้านเกินวัยเพียงใด เขาเป็นเด็กที่มีคุณสมบัติครบถ้วนอย่างที่สุดทั้งร่างกายที่แข็งแกร่ง ความเร็ว ทักษะฟุตบอลที่เล่นได้อย่างเนียนตา รวมไปถึงการจบสกอร์ที่ทำได้ทุกรูปแบบอีกด้วย

และในขณะเดียวกันก็จะได้เห็นไปพร้อม ๆ กันว่าที่มาของฉายา “เกรียนโอ้” นั่นมันมีที่มาเป็นอย่างไร ทุกสิ่งทุกอย่างมันมาจากการกระทำส่วนตัวของเขาทั้งนั้น กับการเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโตและหลงทะนงตัวกับพรสวรรค์ที่เขามี จนกลายเป็นความขี้เกียจ หยิ่งผยอง ไม่ให้เกียรติคู่ต่อสู้ แฟนบอล เพื่อนร่วมทีม หรือแม้แต่ผู้จัดการทีมซึ่งผู้คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่เชื่อในตัวเขาทั้งนั้น และเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ต่างฝ่ายต่างทนไม่ไหวมันก็ต้องแยกทางใครทางมัน

นับจากวันที่เขาแจ้งเกิดกับอินเตอร์ ทุกคนเชื่อว่าเขาจะต้องกลายเป็นตำนานนักเตะอยู่กับทีมใหญ่ซักทีมและประสบความสำเร็จอย่างมาก หลังจากนั้นเมื่อแมนซิตี้ทุ่มเงินดึงตัวไปร่วมทีมมันก็ยิ่งดูจะเป็นไปได้มากขึ้นไปอีก แต่หลังจากพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เขาทำที่ซิตี้มันก็ค่อย ๆ ทำให้เขาถอยหลังลงคลองไปเรื่อย ๆ และถูกส่งต่อให้มิลาน ลิเวอร์พูล นีช มาร์กเซย์ และเบรสชา โดยเฉพาะในทีมสุดท้ายที่เขาเล่นให้อย่างเบรสชาที่คาดหวังในตัวเขาสูงมากว่าจะเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นได้จนถึงขนาดมอบปลอกแขนกัปตันทีมให้ แต่สุดท้ายความเกรียนของเขาก็ไม่ได้หมดไปจนทำให้โดนสโมสรยกเลิกสัญญาและยังไม่มีสังกัดใดรับช่วงต่ออยู่ในขณะนี้

ฝีเท้าของมาริโอ บาโลเตลลี่นั้นไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่ามันยอดเยี่ยมเพียงใด แถมยังมีรางวัลการันตีอยู่ทั้งสคูเด็ตโต พรีเมียลีก และยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก แต่สุดท้ายเขากลับกลายเป็นนักเตะไร้สังกัดที่พึ่งถูกยกเลิกสัญญาจากทีมที่พึ่งจะตกชั้นไปอย่างเบรสชาเท่านั้น นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างมากสำหรับวงการฟุตบอลอิตาลี ที่เพชรเม็ดงามที่พวกเขาคาดหวังว่าจะเป็นกองหน้าระดับโลกของประเทศผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ ถูกความเกรียนและทัศนะคติส่วนตัวกั้นขวางไม่ให้เขาไปถึงจุดนั้น แถมยังกลายเป็นนักเตะที่ไม่มีทีมไหนกล้าดึงตัวไปร่วมทีมอีกด้วย