ความพลิ้วไหว อ่อนช้อย และดุดัน รวมกันเป็นหนึ่งใน “ ลีลาศ ”

การเต้นเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง เป็นการแสดงศิลปะการร่ายรำในรูปแบบใหม่ที่ใช้ท่าทางและภาษากายสื่อออกมาผ่านการเต้น สีหน้า แววตา ประกอบกับเสียงดนตรี ในโลกนี้มีการเต้นอยู่มากมายหลายรูปแบบมาก ๆ วันนี้เราจะมาเสนอการเต้นลีลาศ การเต้นลีลาศนั้นถูกจัดว่าเป็นกีฬาประเภทหนึ่งเช่นกันและการเต้นลีลาศนั้นมักจะเต้นกันเป็นคู่ชายและหญิง จุดเด่นและเสน่ห์ของการเต้นลีลาศคือเอวที่พลิ้วไหว กับจังหวะขาที่ลงตัว การเต้นลีลาศกำเนิดขึ้นมาในหมู่ชนชั้นสูงของประเทศฝั่งตะวันตกมักจะเต้นกันในงานสังคมหรืองานการกุศลต่าง ๆ ต่อมาได้แพร่ขยายไปสู่ชนชั้นกลางและคนทั่วไปอย่างเช่นปัจจุบัน

การเต้นลีลาศได้แพร่ขยายเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รัชกาลที่ 4 นั่นเอง แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมจากคนไทยมากเท่าไหร่ไม่ค่อยมีใครรู้จักหรือเคยเห็นเพราะส่วนใหญ่ที่มีการเต้นก็จะเต้นกันในหมู่ของเชื้อพระวงศ์ ขุนนาง และชนชั้นสูงเท่านั้น ต่อมาสมัยของ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รัชกาลที่ 7 การเต้นลีลาศเริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปี พ.ศ. 2476 ได้มีการบัญญัติคำว่า ลีลาศ ขึ้นมาในภาษาไทยและพร้อม ๆ กันก็ได้มีการจัดตั้งสมาคมครูลีลาศแห่งประเทศไทยขึ้นมา การแข่งขันเต้นลีลาศแบ่งออกเป็น 2 ประเภทก็คือ 1.ประเภทสแตนดาร์ด 2.ประเภทลาตินอเมริกัน โดยการแข่งขันแต่ละประเภทก็จะมีจังหวะในการเต้นที่แตกต่างกันออกไปยกตัวอย่างเช่น การแข่งขันประเภทสแตนดาร์ด ก็จะประกอบไปด้วย จังหวะแทงโก้ (Tango) , จังหวะวอลซ์ (Waltz) , จังหวะฟอกซ์ทรอต (Foxtrot) เป็นต้น ส่วนการแข่งขันประเภทลาตินอเมริกัน ประกอบไปด้วย จังหวะแซมบ้า (Samba) , จังหวะรุมบ้า (Rumba) , จังหวะชะชะช่า (Cha Cha Cha) เป็นต้น กฎและกติกาการให้คะแนนในการแข่งขันเต้นลีลาศนั้นค่อนข้างละเอียดมาก ๆ โดยจะดูจากการเต้นให้ลงจังหวะกับดนตรี พื้นฐานของการเต้นว่าถูกต้องหรือไม่ การเคลื่อนไหวที่ต้องทำออกมาให้ดูพลิ้วไหวสวยงาม การออกแบบการแสดง เลือกเพลงประกอบ การเปลี่ยนท่า และอื่น ๆ อีกมากมาย และการเต้นลีลาศนั้นต้องเต้นเป็นคู่เพราะฉะนั้นการสื่อสารและความสัมพันธ์ของคู่เต้นก็เป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่น้อย

การแข่งขันเต้นลีลาศได้แพร่หลายและได้รับความนิยมไปทั่วโลกและในทวีปเอเชียเองก็มีการจัดแข่งขันเต้นลีลาศอยู่บ่อยครั้ง แต่ละครั้งมีนักกีฬาลีลาศจากประเทศต่าง ๆ ในเอเชียลงแข่งขันกันมากมาย ประเทศไทยเราก็มีนักกีฬาลีลาศที่เก่ง ๆ มีฝีไม้ลายมือที่ดีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน บางคนเอาจริงเอาจังฝึกฝนจนเป็นนักกีฬาที่สามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ หรือบางคนก็เปิดโรงเรียนสอนเต้นลีลาศเพื่อจะถ่ายทอดวิชาความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของตนเองให้แก่เด็กรุ่นหลังต่อไป ใครจะไปคิดว่าการเต้นเพื่อความสนุกสนานในอดีตจะกลายมาเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ในปัจจุบัน