กีฬาเตะลูกขนไก่ จากวัฒนธรรมพื้นเมืองสู่ภูมิภาคเอเชีย

ประเทศจีนคือต้นกำเนิดของกีฬาหลากหลายชนิดที่ได้รับความนิยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กีฬาเตะลูกขนไก่ก็หรือเดาะลุกขนไก่ ก็เป็นหนึ่งในกีฬาที่มีต้นกำเนิดมาจากแดนมังกรเช่นเดียวกัน ย้อนไปเมื่อศตวรรษที่ 5 ในประเทศจีนเกมการเตะลูกขนไก่ได้กำเนิดขึ้น มีความเชื่อว่าเป็นเกมที่มีวิวัฒนาการมาจาก Cuju เป็นเกมคล้ายกับฟุตบอลที่ใช้ในการฝึกทหาร ซึ่งแม่ทัพของจีนจำนวนมากใช้เกมนี้เพื่อให้ทหารทั้งหลายได้ผ่อนคลายและเป็นการฝึกกองกำลังไปด้วยในตัว โดยใช้อุปกรณ์ที่ทำมาการขนไก่หรือเป็ดที่นำมาติดกับไม้ก๊อก นำมาเดาะด้วยเท้า ผู้เล่นต้องเลี้ยงลูกผลัดกันโดยไม่ให้ตกพื้น

กีฬาเตะลูกขนไก่ที่ปรากฏในแต่ละประเทศ

                – ประเทศไทย มีการเล่นลูกหวายสานทรงกลมที่เรียกว่า “ตะกร้อ” กติกาการเล่นนั้น คล้ายการเดาะลูกขนไก่ เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในทุกจังหวัดของประเทศไทย และมีการสอนในหลักสูตรวิชาพลศึกษาอีกด้วย

                – ประเทศมาเลเซีย ทางราชวงศ์ของมาเลเซีย ในรัฐสุลต่านมะละกา ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ได้แนะนำกีฬาที่ชื่อว่า “sepak raga” ให้ชาวมลายูได้รู้จักเมื่อประมาณ 500 ปีที่ผ่านมา

                – ประเทศญี่ปุ่น มีกีฬาที่เรียกว่า “Kemari” ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง การตีบอลด้วยเท้า เกมนี้ได้อิทธิพลมาจากประเทศจีนในศตวรรษที่ 7 และกลายเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นกีฬาที่สามารถหาซื้อได้ง่ายและราคาถูก

                – ประเทศเกาหลี มีการใช้ดินเหนียวห่อด้วยผ้าสำลีปักด้วยหางไก่ฟ้า เรียกว่า “Jeigigi” หรือ “Jeigi-Cha” เป็นหนึ่งในเกมกีฬาที่แพร่หลายและเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดของชาวเกาหลีสมัยโบราณ ซึ่งในปัจจุบันความนิยมในกีฬาชนิดนี้จะลดลงไป แต่ก็ได้มีการค้นพบภาพถ่ายจำนวนมากของเด็ก ๆ ที่แต่งกายด้วยชุดประชาติ กำลังกระตือรือร้นในการเตะลูกขนไก่

                – ประเทศเวียดนามไก่ เรียกกีฬากีฬาเตะลูกขนไก่ว่า “Da Cau” ความนิยมในกีฬาชนิดนี้เรียกได้ว่าเป็นกีฬาประจำชาติเลยก็ว่าได้ สำหรับลูกที่ใช้นั้นเรียกว่า “Cua” ซึ่งในอดีตนั้นทำจากเหรียญโลหะและขนนก จนเวลาผ่านไปก็กลายเป็นลูกยางพลาสติกที่ติดริบบิ้นสีแทน จากบันทึกประวัติศาสตร์ของเวียดนามมีการแข่งขันเตะลูกขนไก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 รวมทั้งมีการค้นพบไม้แกะสลักของผู้เล่นลูกขนไก่ในวัดแห่งหนึ่งในศตวรรษที่ 17 อีกด้วย

                – ประเทศอินโดนีเซีย เรียกเกมเตะลุกขนไก่ว่า “Bola Bulu Tangkis” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันตั้งแต่ศตวรรษที่ 10

                – ประเทศฟิลิปปินส์ การเตะลูกขนไก่กลายเป็นเกมกีฬาโบราณที่มีเพียงผู้เฒ่าผู้แก่ที่ยังรู้จักกีฬาที่เรียกว่า “Larong Sipa”

                – ประเทศสิงคโปร์ มีการเรียกเกมเตะขนไก่ว่า “Chapten” เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมานานหลายศตวรรษ เกมจะอาศัยการเล่นเดาะลูกขนไก่เป็นวงกลม ผลัดกันเดาะจนกว่าจะมีคนที่เดาะได้เป็นคนสุดท้าย

                ประเทศอินเดีย การเตะลูกขนไก่มีอยู่ตั้งแต่ก่อนคริสตศักราช 1500 ถูกเรียกว่า “Poona” มีความแตกต่างจากหลาย ๆ ประเทศ เพราะที่อินเดียนั้นใช้การเดาะลูกขนไก่ด้วยฝ่ามือ จนมีนายทหารอังกฤษคนหนึ่งเห็นกีฬาตีลูกขนไก่จึงนำกลับไปเล่นที่อังกฤษ เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในไม่นานก็ได้ถูกเรียกว่า “แบตมินตัน”

นับแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นก็ล่วงเลยมากว่าสองพันปี ใครจะไปรู้ว่า การเดาะลูกขนไก่จะแพร่กระจายไปทั่วทวีปเอเชียรวมถึงทั่วโลก แม้มีการดัดแปลงกติกาการเล่น รวมถึงเปลี่ยนชื่อเรียกให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ แต่เมื่อมองเห็นลูกขนไก่ ก็จะทำให้นึกถึงประเทศจีนไปโดยปริยาย

เครดิตภาพ : https://pixabay.com/fr/photos/volants-prairie-jouer-2788698/